เกม Disgaea 6: Defiance of Destiny ก็ถือว่าเป็นภาคล่าสุดของซีรี่ส์ Disgaea ซึ่งเป็นเกมแนว SRPG ที่มีสไตล์การเล่นที่โดดเด่น มีทั้งเรื่องราวที่ถูกนำเสนอออกมาแบบแปลกใหม่ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่นเข้าถึงได้ยาก แต่กลับมีแฟน ๆ อยู่มากมายทั่วโลก โดยที่ภาคนี้เค้าบอกเลยว่าถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่จะยกระดับของภาพจากแบบพิกเซลมาเป็นแบบ 3 มิติ แถมยังได้ตัวเอกคนใหม่ให้ผู้เล่นได้กลับมาอีกครั้ง และในภาค Defiance of Destiny นี้จะสามารถขยายฐานผู้เล่นให้มีวงกว้างมากขึ้นได้หรือไม่ แล้วจะมีอะไรที่ถูกใส่เพิ่มเติมเข้ามาบ้างนอกเหนือไปจากในเรื่องของกราฟฟิก ต้องมาติดตามกันว่าจะเป็นอย่างไร
โดยตัวเกมจะเริ่มจากการแนะนำตัวเอก ที่ชื่อว่า Zed ซึ่งเป็นซอมบี้ และเขาก็มีหน้าที่พิชิตเจ้าแห่งการทำลายล้างผู้ที่ได้ขู่ไว้ว่าจะทำลายโลกนี้ และเขาก็เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้อีกด้วย แต่ตัวเอกเองเค้าก็เลยมีความสามารถในการฟื้นกลับมาจากความตายและแข็งแกร่งกว่าเดิม โดยในการเล่นเนื้อเรื่องหลักจะใช้เวลาประมาณ 30 ชั่วโมงเพื่อผจญภัยไปในเกม ทำให้ผู้เล่นจะได้พบเจอกับตัวละครอีกมากมายที่จะได้เข้ามาร่วมเดินทางเพื่อไปปฎิบัติภารกิจด้วยกัน โดยหลาย ๆ ตัวละครก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างโดดเด่น ทั้ง God of Destruction, Prinny, Cerberus มีกษัตริย์ผู้ใช้เงินไปอย่างฟุ่มเฟือยและไร้สาระ และยังมี สาวน้อยผู้ที่ฝันว่าชีวิตของเธอจะมีความแฮปปี้และเธอทำได้ทุกทาง อย่าง Melodia และ Piyori หัวหน้าหน่วย Ultra Chroma power squad prism rangers ที่เธอต้องการจะมีแรงค์สูง ๆ โดยเรื่องราวในเกมนี้ก็อาจจะไม่ได้มีความตึงเครียด ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากมายนัก แม้เรื่องราวจะเกี่ยวกับโชคชะตาของโลกนี้ก็ตาม แต่จุดที่จะทำให้ผู้เล่นได้สนุกไปกับเกมได้ คือ เหล่าตัวละครต่าง ๆ ที่มีบุคลิกที่น่าสนใจ มีทั้งเสน่ห์และบทพูดที่โต้ตอบกับตัวละครอื่น ๆ ก็ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกจุดหนึ่งของเกมนี้เลย เพราะในแต่ละฉากก็จะมีมุขตลกสอดแทรกอยู่บ้าง ถือว่าเป็นจุดเด่นของแฟรนไชส์นี้เลยก็ว่าได้
เกม Disgaea 6: Defiance of Destiny เป็นเกมแนววางแผน กลยุทธ์ ที่จะให้ผู้เล่นได้ต่อสู้เพื่อไปผ่านด่านต่าง ๆ และจะได้เจอกับศัตรูที่มีความแตกต่างกัน ตัดสลับกับเนื้อเรื่องและการควบคุมการเดินให้อิสระ ถือว่าเป็นการพักในระหว่างการต่อสู้ได้ และอีกส่วนหนึ่งที่ยังคงเหมือนกันกับภาคแรกก็คือส่วนของค่าพลังในการโจมตี จะมีความเวอร์มากกว่าปกติ และเกมนี้ก็ยังคงมีไกด์ให้อยู่เช่นเคย เพื่อให้การเก็บค่าประสบการณ์ง่ายขึ้น ทั้ง Juice bar ที่จะให้ผู้เล่นได้เลือกเพิ่มเลเวล เลือกเพิ่มมานา และค่าอื่น ๆ ได้ หรือระบบออโต้โหมดที่จะต่อสู้ให้โดยอัตโนมัติอีกด้วย
Disgaea 6: Defiance of Destiny
ในส่วนของระบบการเล่นหลัก ๆ ของเกมนี้ ก็คงไว้ที่ต้นฉบับ ที่ยังนำมาใช้อยู่เหมือนเดิม โดยที่ตัวผู้เล่นและศัตรูก็จะเดินอยู่ในฉากต่อสู้ที่เป็นรูปแบบของตาราง และจะสลับเทิร์นกันเล่น ที่จะต้องออกคำสั่งเพื่อที่จะทำสิ่งต่าง ๆ และมันก็ยังคงเต็มไปด้วยเอลิเม้นจากภาคเก่า มีความหลากหลายทั้งการเพิ่มค่าประสบการณ์ให้ตัวละคร และการเพิ่มพลังในการโจมตีใส่ศัตรู และยังมีอื่น ๆ อีกมากมาย และอีกอย่างคือการโยนเพื่อนใส่ศัตรูเพื่อเป็นกลยุทธ์ในการเล่น หรือผู้เล่นยังสามารถโยนเจ้า Prinny ก็ได้เช่นกัน ซึ่งมันจะระเบิดเมื่อตกถึงพื้น
แต่ในภาคนี้ก็จะมีการตัดฟีเจอร์บางอย่างออก อย่างเช่น Magic change แต่มันก็แลกมากับความสามารถในการสวมใส่อาวุธต่าง ๆ ให้กับตัวละครที่เป็นคลาส Monster แทน ส่วนตัวละครนั้นยังคงสวมใส่อาวุธได้หลายแบบ ด้วยการใช้ไอเทมปรับเลเวลของตัวละครให้กลับไปเป็น 1 แต่ค่า Stat ต่าง ๆ ยังคงไว้เหมือนเดิม ซึ่งมันก็จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้เล่นสร้างตัวละคร เลี้ยงตัวละครแต่ละตัวได้มากขึ้น และนอกจากนั้นตัวละครแต่ละตัวก็ยังมี D-Merits เป็น Challenge ที่สามารถทำให้ผู้เล่นเลือกทำเพื่อให้ได้โบนัสต่าง ๆ และยังคงมีระบบอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งระบบในการเล่นของเกมนี้มีความละเอียดมีความลึกและยังซับซ้อนมาก ๆ อีกด้วย ซึ่งถ้าใครที่ยังไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนเลย ก็อาจจะต้องเตรียมใจและจะต้องศึกษามันให้มาก
ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้มันด้วย และในระหว่างการเล่นด่านนั้น ผู้เล่นก็ยังสามารถสำรวจฐานได้ โดยผู้เล่นก็ยังสามารถเลือกซื้ออาวุธและไอเทมจากร้านค้าต่าง ๆ ได้ นอกจากร้านค้าทั่วไปแล้ว ก็ยังมี Juice bar มีเควสท์Shop, Skill shop และ Cheat shop ที่ผู้เล่นจะสามารถซื้อฟีเจอร์เพื่อจะโกงเกมต่าง ๆ ได้ อย่างเช่น ความยากของศัตรู หรือจำนวน XP ที่ผู้เล่นจะได้รับ และอีกส่วนที่แตกต่างไปจากภาคก่อนก็คือ โรงพยาบาล ที่มันจะคอยฮิลล์เราเมื่อจบการต่อสู้ทันที แต่ Item World หรือโลกของไอเทม ที่จะใช้ในการอัพเลเวลของไอเทมแต่ละชิ้นด้วยการสำรวจโลกในไอเทมนั้น แล้วต้องสู้กับศัตรู โดยมันก็จะแตกต่างไปจากการเล่นปกติที่ผู้เล่นจะไม่ถูกฮิลล์ และหลังจากจบการต่อสู้แล้ว ผู้เล่นก็ต้องไปยัง innocent town เพื่อที่จะใช้โรงพยาบาลฮิลล์เอง
ในส่วนของระบบกราฟฟิก ถือว่าเป็นครั้งแรกของซีรีส์นี้เลย ที่ได้เปลี่ยนจากระบบ 2 มิติ ให้กลายเป็นระบบ 3 มิติแบบเต็มตัว ส่วนงานภาพในเรื่องของอาร์ตสไตล์ อนิเมะและการออกแบบตัวละครต่าง ๆ ก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างงดงามดี ยิ่งถ้าผู้เล่นใช้ท่าพิเศษในการโจมตี และยังมีการตัดสลับไปยังคัทซีน ซึ่งถือว่าทำออกมาได้อย่างลงตัว มีความเข้ากันและยังมีความหลากหลายมากขึ้นอีกด้วย ส่วนสถานที่ต่าง ๆ ภายในเกมก็ถือว่าเป็นการยกระดับการผจญภัยได้อย่างดีมาก ๆ เพราะมีความหลากหลาย สร้างความแตกต่างในแต่ละด่านได้ชัดเจน
Disgaea 6: Defiance of Destiny
ส่วนตัวเกมก็ยังมีตัวเลือกให้ผู้เล่นได้ปรับกราฟฟิกที่จะเน้นรายละเอียดของภาพแต่จะลดเฟรมเรทลง ซึ่งจะกระตุกอย่างชัดเจน ส่วนเพอร์ฟอร์แมนซ์โหมดก็จะเน้นไปที่ความลื่นไหลแต่ตัวละครอาจจะดูไม่ค่อยชัดเจนดูภาพมัว ๆ อยู่บ้าง และอีกโหมดคือโหมดบาลานซ์ ที่ความมัวของภาพจะน้อยลงและความลื่นไหลก็จะมากกว่ากราฟฟิกโหมด ซึ่งโหมดบาลานซ์น่าจะโอเคที่สุดใน 3 โหมดนี้ ส่วนซาวด์เอฟเฟคภายในเกมก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม Soundtrack ก็มีแนวเพลงที่หลากหลาย แต่ยังคงความเอกลักษณ์ของเกมนี้ได้อย่างดีมาก ส่วนว้อยซ์แอ็คติ้งก็มีให้เลือกปรับได้ทั้งเสียงพากย์อังกฤษและเสียงพากย์ญี่ปุ่น และทั้งคู่ก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างดี
เกม Disgaea 6: Defiance of Destiny นี้ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภาคที่น่าสนใจ ทั้งการอัพเกรดกราฟฟิก งานด้านภาพ จาก 2 มิติ ที่ทำมานานเปลี่ยนมาเป็นแบบ 3 มิติ อย่างเต็มรูปแบบ และได้มีการปรับปรุงระบบการเล่นต่าง ๆ ให้ผู้เล่นหน้าใหม่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้แบบทุกกลุ่ม ส่วนเรื่องราวและตัวละครก็ยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์นี้อย่างเต็มรูปแบบ มีทั้งความตลก การเสียดสีต่าง ๆ แถมยังดูแปลก แต่ก็มีเสน่ห์มาก ในเรื่องของเพอร์ฟอร์แมนซ์ก็อาจจะยังดูติดขัดอยู่บ้าง แม้จะมีการให้เลือกปรับอยู่หลายโหมดแล้ว แต่ก็แน่นอนว่าถ้าใครเป็นแฟนของเกมนี้ คุณก็น่าจะถูกใจในภาคนี้มากแน่นอน แต่สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ก็อาจจะยังรู้สึกว่ายังเข้าถึงได้ยาก เพราะด้วยระบบต่าง ๆ ในการเล่นที่มีความลึก อาจจะต้องใช้การเรียนรู้ให้เกิดความชำนาญก่อน จึงจะสามารถสนุกได้อย่างเต็มที่